ดื่มแอลกอฮอล์หนักแค่ไหนเสี่ยงตับพัง
ถ้าดื่มแอลกอฮอล์หนักมาก ตับจะพังต่อ(เนื่อง)ไม่รอแล้วนะ !! วันนี้เราจะมาดูกันว่า ถ้าคุณดื่มแอลกอฮอล์ขนาดไหนกันที่จะส่งผลต่อตับของคุณได้
ในทางการแพทย์ได้กำหนดไว้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์
12- 15 กรัมเท่ากับปริมาณแอลกอฮอล์ 1 หน่วย
งั้นเรามาดูกันก่อนว่าเครื่องดื่มมึนเมาแต่ละชนิดมีปริมาณแอลกอฮอล์เท่าไหร่กันบ้าง
·
เริ่มที่เบียร์ 1 กระป๋อง
มีแอลกอฮอล์ประมาณ 13 กรัม
·
ไวน์ 1แก้ว มีแอลกอฮอล์ประมาณ 12 กรัม
·
วิสกี้ 2 ฝา มีแอลกอฮอล์ประมาณ 14
กรัม
แล้วก็จะเกิดคำถามขึ้นมาว่า
ต้องดื่มหนักแค่ไหนกันล่ะ? ถึงทำให้ตับของเราพังได้
มีผลการศึกษาระบุว่าผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าวันละ 80 กรัม(5 หน่วย)
เป็นเวลาไม่มากกว่า 10 ปี สามารถก่อให้เกิดตับแข็งได้ แต่ก็มีเพียงร้อยละ 15 - 20
เท่านั้นที่จะเกิดตับแข็ง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในส่วนที่เหลืออีกเกือบ 80 % ไม่มีโอกาสเป็นตับแข็ง
เพราะคนที่เป็นไปแล้วอาจไม่รู้ตัวว่าเป็นจนกว่าจะมีอาการแทรกซ้อนขึ้นมา
ดังนั้นการตรวจสุขภาพร่างกายเพื่อเช็คตับของเราว่ายังดีอยู่หรือเปล่าก็เป็นเรื่องที่ควรทำไม่น้อย
ทีนี้เราก็เริ่มเป็นห่วงตับของตัวเองกันบ้างแล้วว่าตอนนี้ตับของฉันจะสบายดีอยู่หรือเปล่า
หากคุณเป็นนักดื่มตัวยงอยู่แล้ว ลองแวะมาอ่านเช็คสุขภาพตับกันสักนิดดีกว่าค่ะ
ผลกระทบของแอลกอฮอล์ที่มีต่อตับ
แบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ ได้แก่
1. ไขมันสะสมในตับ (Alcoholic fatty liver)
ลักษณะของตับ : ถ้าตรวจร่างกายอาจพบว่ามีการสะสมของไขมันชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์เพิ่มขึ้นในเซลล์ตับ
ตับมีขนาดใหญ่ ผิวเรียบนุ่มและกดไม่เจ็บ
อาการของผู้ป่วย : ในระยะนี้มักจะไม่มีอาการใดๆ
การตรวจเลือดอาจพบความผิดปกติเล็กน้อย
วิธีการรักษา : ผู้ป่วยในระยะนี้ถ้าหยุดดื่มสุราตับจะสามารถกลับเป็นปกติโดยไม่มีพยาธิสภาพตกค้าง
ความเสี่ยง : ถ้ายังดื่มอยู่ก็จะลุกลามไประยะ ที่ 2
2. ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์
(Alcoholic Hepatitis)
ลักษณะของตับ : เมื่อตรวจร่างกายในระยะนี้จะพบว่าตับมีขนาดใหญ่และกดเจ็บ
เนื้อของตับเริ่มจะแข็งกว่าระยะแรก
และเมื่อตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการจะพบความผิดปกติของการทำงานตับอย่างชัดเจน
อาการของผู้ป่วย : อาการน้อยๆ เช่น
จุกแน่นที่บริเวณชายโครงด้านขวา ไปจนถึงมีอาการรุนแรง เช่น อาการดีซ่าน ไข้สูง เป็นต้น
ส่วนอาการทางสมอง ได้แก่ อาการสับสน วุ่นวาย ไปจนถึงอาจหมดสติได้ รวมถึงอาจเกิดตับวาย
ซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงต้องเข้ารับการรักษาทันที
วิธีการรักษา : หยุดดื่มเด็ดขาด รับประทานอาหารและรับวิตามินเสริมอย่างเพียงพอ
เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีภาวะขาดสารอาหารและวิตามิน หากหยุดดื่มเหล้าในระยะนี้
ส่วนใหญ่แล้วมักจะอาการดีขึ้นและอาจกลับเป็นปกติได้
ความเสี่ยง : ถ้าผู้ป่วยยังดื่มต่อไม่หยุด ก็มีโอกาสลุกลามเข้าไปสู่ระยะที่
3
ที่เรียกว่าตับแข็ง
3. ตับแข็งจากแอลกอฮอล์
(Alcoholic Cirrhosis)
ลักษณะของตับ : มีผังผืดเกิดขึ้นในเนื้อตับ
ทำให้ตับผิวไม่เรียบ ขรุขระ เป็นก้อน และมีขนาดเล็กลง
อาการของผู้ป่วย : เป็นดีซ่าน ท้องมาน
อาเจียนเป็นเลือดสดๆเพราะเส้นเลือดขอดในหลอดอาหารแตก มีภาวะทุกขโภชนาการ
กล้ามเนื้อลีบ
วิธีการรักษา : หยุดดื่มแอลกอฮอล์ถาวรและรับประทานอาหารที่มีคุณค่า
เพราะผู้ป่วยระยะนี้อยู่ในภาวะทุกขโภชนา
ความเสี่ยง : แม้หยุดดื่มตับก็ไม่กลับมาปกติแค่ช่วยป้องกันไม่ให้เนื้อตับเสียหายกว่าที่เป็นอยู่ อาจกลายเป็นมะเร็งตับ
ฉะนั้นหากคุณเป็นนักดื่มที่เริ่มรักตับมากกว่าการดื่มแล้วล่ะก็
ลองหาเวลาพักตับและเข้ามาพบแพทย์ให้ดูแลสุขภาพตับของคุณสักหน่อย
เพื่อกำจัดล้างสารพิษให้ลดลง ไม่งั้นตับจะพังต่อไม่รอละนะ
อ่านข้อมูลการล้างพิษตับได้ที่ https://bit.ly/2QuyjyS
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น