เบาหวาน รู้ก่อนเบาใจ ควบคุมได้..เบาโรค
เบาหวาน รู้ก่อนเบาใจ ควบคุมได้..เบาโรค
โรคเบาหวาน
อาจใกล้ตัว..มากกว่าที่คุณคิด เพราะหนึ่งสาเหตุสำคัญอาจมาจากอาหารหรือผลไม้ที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานในแต่ละวัน
รวมไปถึงเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น ช่วยคลายเครียด แต่ “เสี่ยงเบาหวาน” ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อน
ว่าเบาหวานคืออะไร?
เบาหวาน (Diabetes) คือ ภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ สาเหตุจาก
ขาดฮอร์โมน อินซูลิน หรืออินซูลินมีการทำงานที่ผิดปกติ ซึ่งการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานๆส่งผลให้อวัยวะและเนื้อเยื่อทั้งหมดในร่างกายมีการทำงานผิดปกติและทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นได้
อินซูลิน (Insulin) คือ ฮอร์โมนที่สร้างมาจากตับอ่อนทำหน้าที่ในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเพื่อเปลี่ยนให้เป็นในรูปของพลังงาน เข้าไปสู่กล้ามเนื้อและเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย
ซึ่งถ้าหากอินซูลินทำงานผิดปกติ น้ำตาลที่ได้ก็จะตกค้างอยู่ในกระแสเลือด
ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหลายคนสงสัยว่าหน้าที่ของอินซูลินเปรียบได้กับอะไร?
พลังงานน้ำตาล = ผู้โดยสาร
ฮอร์โมนอินซูลิน = แท็กซี่
เซลล์,กล้ามเนื้อ,อวัยวะต่างๆ = จุดหมาย
เบาหวาน เปรียบดัง “ กรุงเทพฯ
ในวันที่ฝนตก ”
“ ฝนตกที..โบกแท็กซี่ กี่คันก็ไม่ไป บ้างขับไปได้สักพัก กลับเทผู้โดยสาร..อย่างไร้น้ำใจ
ไม่สนฟ้า-ฝนใดๆ ปฏิเสธกันเป็นว่าเล่น ภาพที่เห็นคือผู้โดยสารตกค้างเต็มสองข้างทาง ยังคงยืนรอแท็กซี่ อย่างมีความหวัง ”
เบาหวานแบ่งออกหลักๆได้
2 ประเภท
เบาหวานประเภทที่ 1 : ประเภทเลือกเกิดไม่ได้ เป็นชนิดที่พบได้น้อย
ประมาณ 10%* และมักเริ่มมีอาการตั้งแต่ในวัยเด็ก
สาเหตุมาจากตับอ่อนสร้างอินซูลินไม่ได้เลยหรือสร้างได้น้อยมาก
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพึ่งพาการฉีดอินซูลินเข้าทดแทน
เพื่อให้ร่างกายสามารถเผาผลาญน้ำตาลได้เป็นปกติ
เบาหวานประเภทที่ 2 : ประเภทป้องกันได้ เป็นชนิดที่พบเป็นส่วนใหญ่
มากกว่า 80-90%* เกิดจากการที่ตับอ่อนยังสามารถสร้างอินซูลินได้แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
หรือร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ได้(เรียกว่า ภาวะดื้ออินซูลิน) น้ำตาลจึงตกค้างในกระแสเลือดจำนวนมาก
ซึ่งมักเกิดกับกลุ่มผู้สูงอายุ น้ำหนักเกิน โดยการรักษาจะเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่น
การลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ให้ยารับประทานหรือฉีดอินซูลินร่วมด้วย
เบาหวานประเภทที่ 2 นี้ เรียกง่ายๆว่า
แท็กซี่มีเยอะ แต่ไม่ว่าง อ้าง..ส่งรถ บ้างก็ไปส่งแก๊ส
* International
Diabetes Federation, 2003
ปัจจัยเสี่ยงโรคเบาหวาน
1. อายุมากขึ้น
: เพราะอายุที่มากขึ้น เข้าสู่วัยชรา ร่างกายจึงไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. บุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นเบาหวาน
: ข้อนี้ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะการมีพ่อแม่หรือญาติเป็นเบาหวานมักเพิ่มโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าครอบครัวที่ไม่มีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน
3. ภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์
: เมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นทำให้ดื้ออินซูลิน
ซึ่งนอกจากนี้ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆตามมาด้วย
โดยสามารถคำนวณน้ำหนักตัวที่เหมาะสมด้วยการเทียบค่าดัชนีมวลกาย
(body mass index : BMI)
ดัชนีมวลกายที่เหมาะสมสำหรับชาวเอเชียและคนไทยคือ 18.5 – 22.9 กิโลกรัม/เมตรกำลัง2 ถ้ามากกว่านี้จะเข้าสู่ภาวะอ้วน
ซึ่งเสี่ยงกับโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูงได้
นอกจากนี้หากคำนวณแล้วมีน้ำหนักตามเกณฑ์
แต่มีไขมันหน้าท้องมากหรือเรียกว่า “อ้วนลงพุง” บุคคลกลุ่มนี้ก็ถือว่ามีความเสี่ยงมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูง
และเสี่ยงเป็นเบาหวานได้เช่นกัน
4. ความดันโลหิตสูง : ขึ้นชื่อว่าเป็นโรคพี่
ก็ต้องมีโรคน้อง โรคความดันโลหิตสูงก็มักจะตามมาด้วยเบาหวาน เพราะมันมีปัจจัยเสี่ยงเดียวกัน
เช่น การมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน การทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ และการไม่ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ
เป็นต้น
5.ภาวะตั้งครรภ์ : ความเสี่ยงนี้มักเกิดในสตรีขณะตั้งครรภ์
โดยสาเหตุอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างที่ตั้งครรภ์
ทำให้หญิงตั้งครรภ์บางรายเกิดภาวะร่างกายต่อต้านอินซูลิน ส่งผลให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
6.
ดื่มสุราและสูบบุหรี่ : เพราะการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำส่งผลให้จำนวนของอินซูลินลดลง
แต่ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดกลับจะเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้หากคำนวณโดยละเอียด
แอลกอฮอล์ 1 กรัม ให้พลังงานถึง 7 แคลอรี่ ซึ่งจัดว่าให้พลังสูงมาก ซึ่งถ้าดื่มหนักมาก
ร่างกายก็จะนำพลังงานเหล่านี้ไปใช้ โดยที่ร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญพลังงาน
นำพาไปสู่โรคอ้วนลงพุง
หากคุณมีความเสี่ยงเหล่านี้ควรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
หันมาออกกำลังกายรักษาสุขภาพ รวมไปถึงตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อหาแนวทางป้องกันก่อนจะสายเกินแก้กันนะคะ
“ เพราะความเจ็บป่วยป้องกันได้ ”
PANACEE PREVENTIVE HOSPITAL
-----------------------------------------------------------
02-452-2999
โรงพยาบาลพานาซี พระราม 2
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น